หลังจากที่โลกได้ตื่นรู้กับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศควบคู่กับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วนเริ่มเห็นชัดเจนและจริงจังมากขึ้น ทำให้ช่วงที่ผ่านมาทั้ง ภาคประชาชน และภาคธุรกิจ เริ่มมีความต้องการบริโภคสินค้าและบริการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มสูงขึ้น และเริ่มปรับกระบวนการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่าและมีประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุดคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด
รวมทั้ง ภาครัฐ ได้มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศมุ่งเน้นแก้ปัญหาในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรม ตามที่ได้ประกาศเจตนารมณ์เพื่อยกระดับการดำเนินการของไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางในปี 2593 และเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจก สุทธิให้เป็นศูนย์ในปี 2608 โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) บอกว่า ตลาดทุนในฐานะที่เป็นศูนย์กลางในการระดมเงินทุนจึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ “ตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน” โดยหลังจากที่ ก.ล.ต.ได้ออกหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการออก ตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ตราสารหนี้เพื่อพัฒนาสังคม (Social Bond) และตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) ตั้งแต่ปี 2561-2562 และออกหลักเกณฑ์เพิ่มเติมสำหรับ ตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond)
พบว่า ผู้ระดมทุนและผู้ลงทุนต่างให้ความสนใจในตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2564 มีมูลค่าการระดมทุนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2563 (โดยเพิ่มเป็น 174 ล้านบาท จาก 86 ล้านบาท) และในปี 2565 การระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนมีมูลมากกว่า 3 แสน 9 หมื่นล้านบาท เพื่อนำเงินไปใช้สำหรับโครงการต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเกิดประโยชน์ต่อสังคมมากมาย เช่น ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม โครงการปลูกป่า การจ้างงานและบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ
ส่วนในด้านของผู้ลงทุนก็ให้การตอบรับที่ดีกับตราสารหนี้ประเภทนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผู้ลงทุนต่างชาติ รวมไปถึงผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งเห็นได้จากหลายเคสที่มูลค่าการจองซื้อเกินกว่ามูลค่าการเสนอขาย(oversubscription)
สิ่งที่ผู้ระดมทุนในภาคธุรกิจจะได้รับ ได้แก่
1.ช่วยขยายฐานผู้ลงทุนใหม่ ๆ ให้กับกิจการ โดยอาจมีการขยายฐานไปยังผู้ลงทุนที่ไม่เคยลงทุนในตราสารหนี้ของกิจการมาก่อน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ลงทุนที่ใช้ปัจจัยด้านความยั่งยืนประกอบการตัดสินใจลงทุน ซึ่งจากการศึกษาข้อมูล พบว่า กิจการที่ออกตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนสามารถขยายฐานไปยังผู้ลงทุนรายใหม่ได้ เช่น กลุ่มผู้ลงทุนที่เป็นบริษัทประกันชีวิต กองทุนรวม และผู้ลงทุนต่างชาติ
2.มีโอกาสได้รับต้นทุนในการระดมทุนที่ลดลงได้เนื่องจากผู้ลงทุนตื่นตัวในเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความสนใจในการลงทุน ยกตัวอย่างเช่น กรณีของพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนของรัฐบาลไทยที่ออกครั้งแรกในเดือนสิงหาคม2563พบว่าสามารถออกพันธบัตรได้ในวงเงิน30,000ล้านบาท ที่อัตราดอกเบี้ย1.585%ต่อปีซึ่งต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนตลาด (market yield)ของพันธบัตรรัฐบาลทั่วไปที่มีอายุเท่ากัน เนื่องจากผู้ลงทุนให้ความสนใจอย่างมากโดยมีการเสนอวงเงินซื้อพันธบัตรเข้ามาสูงถึง3.05เท่าของวงเงินที่ประกาศ
3.ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้แก่กิจการ โดยเป็นการแสดงให้เห็นเจตนารมณ์มุ่งไปสู่การดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสังคม สิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน รวมถึงยังสามารถที่จะทำให้กิจการเป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับประเทศหรือระดับสากลอีกด้วย
4.ช่วยเตรียมความพร้อม ให้กับกิจการในการปฏิบัติตามข้อบังคับทั้งในระดับประเทศและระดับสากลที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและสังคมที่มีแนวโน้มจะเข้มงวดมากขึ้นในอนาคต เช่น ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งปัจจุบันสำนักงานโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่ระหว่างยกร่าง และร่างระเบียบมาตรการการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (CBAM) ของสหภาพยุโรป ที่คาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ในปี 2566 ตลอดจนแรงกดดันจากผู้ที่เกี่ยวข้องในนิเวศธุรกิจ (business ecosystem) เป็นต้น
สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับ ได้แก่
1.ช่วยสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ให้กับผู้ลงทุน รวมถึงยังเป็นทางเลือกการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่มีความต้องการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในรูปตัวเงิน และได้ช่วยเหลือด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน
2.มีความผันผวนที่ต่ำกว่าตราสารหนี้ทั่วไป โดยจากบทความทางวิชาการของต่างประเทศ พบว่าผู้ลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนส่วนใหญ่มักมีพฤติกรรมในการลงทุนที่เน้นการซื้อแล้วถือครอง (Buy and Hold)คำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต
3.ช่วยส่งเสริมความโปร่งใสในการลงทุนเนื่องจากการออกตราสารหนี้กลุ่มนี้มีข้อจำกัดเรื่องวัตถุประสงค์การใช้เงิน หรือการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายด้านความยั่งยืน จึงจำเป็นจะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้ลงทุนรับทราบก่อนตัดสินใจลงทุน
4.สอดคล้องกับทิศทางในการส่งเสริมเรื่องการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบเช่น หลักธรรมาภิบาลการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนสถาบันของ ก.ล.ต. เพื่อเป็นมาตรฐานในการลงทุนด้วยความรับผิดชอบต่อลูกค้าโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลของกิจการ(ESG)นอกจากนี้ ยังมีโครงการPrinciples for Responsible Investment (PRI)ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การสนับสนุนขององค์การสหประชาชาติ เพื่อให้คำแนะนำเรื่องการนำหลักการลงทุนที่รับผิดชอบมาใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยสิ้นปี2564มีผู้ลงทุนเข้าร่วมลงนามกว่า4,500รายทั่วโลก ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกว่า121ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกเหนือจากการลงทุนแล้วหวังผลกำไรแล้ว จะต้องตระหนักให้มั่นว่า “หากโลกยั่งยืน ธุรกิจก็ยั่งยืน ผลการลงทุนก็ยั่งยืน”